ข้อดีของการท่องเที่ยวในช่วง Low Season

สวัสดีคร้าบบบ... กลับมาพบกับน้องโฟกัสอีกครั้ง พร้อมข้อมูลดี ๆ สำหรับนักเดินทาง

หากพูดถึงช่วงเวลาที่เหมาะแก่การออกไปท่องเที่ยว ก็คงตอบกันได้ไม่ยากว่าเป็นช่วง High Season เพราะการท่องเที่ยวในช่วง High Season นั้น เราจะได้พบเจอกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตามฤดูกาลหรืออาจเป็นช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ซึ่งต่างจาก Low Season ที่ไม่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมากนัก อาจเพราะปัจจัยด้านสภาพอากาศหรืออื่น ๆ แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่า การท่องเที่ยวในช่วง Low Season นั้นก็มือข้อดีเยอะมากเช่นกัน และในวันนี้ น้องโฟกัสจะมาบอก ข้อดีของการท่องเที่ยวในช่วง Low Season ให้ทุกคนได้เก็บข้อมูลเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกช่วงเวลาท่องเที่ยวในครั้งหน้ากันคร้าบ... สล็อตเว็บตรง

 

1. ที่พักราคาถูก เนื่องด้วยช่วง Low Season เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย ทำให้ห้องพักตามโรงแรมต่าง ๆ จะมีห้องว่างเยอะกว่าปกติ ทางโรมแรมจึงมักจะลดราคาหรือจัดโปรโมชั่นมากมายเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งรวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงแรมอย่างสปาหรือห้องอาหารอีกด้วย ดังนั้นการท่องเที่ยวในช่วง Low Season นั้นจะเป็นช่วงที่คุ้มค่ามาก ๆ

 

2. ตั๋วเครื่องบินราคาไม่แพง นอกจากที่พักที่มีราคาถูกแล้ว ก็ยังมีตั๋วเครื่องบินหรือราคาทัวร์ที่ประหยัดลงจากช่วง High Season เช่นกัน และนอกจากจะมีราคาที่ประหยัดลงแล้ว สายการบินต่าง ๆ ยังมีโปรโมชั่นมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักหรือรถรับส่ง ซึ่งเป็นอีกข้อดีของการท่องเที่ยวในช่วง Low Season

 

3. การบริการที่ดีกว่า หากพูดถึงการบริการ แน่นอนว่าผู้ให้บริการทุกคน ทุกสถานที่ต่างต้องการที่จะบริการลูกค้าทุกท่านอย่างสุดความสามารถ แต่ในบางช่วงเวลาอย่าง High Season ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่าปกติ ทำให้บางครั้งการบริการอาจเข้าถึงลูกค้าทุกท่านได้ไม่เต็มที่ ซึ่งต่างจากช่วง Low Season ที่ผู้คนจะค่อนข้างน้อย ดังนั้นทุกท่านจะได้รับการบริการอย่างทั่วถึง ทั้งยังอาจได้สิทธิพิเศษต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นจากปกติ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การดึงดูดลูกค้าในช่วง Low Season อีกด้วย

 

4. ผู้คนไม่แออัด สำหรับการท่องเที่ยวในช่วง High Season นั้น ทุกคนมักจะประสบกับปัญหาเดียวกันคือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ล้วนแออัดไปด้วยผู้คน และสาเหตุนี้ก็จะนำไปสู่ปัญหาที่ตามมาอีกหลายประการ ซึ่งปัญหาหลัก ๆ ที่หนีไม่พ้นเลยก็คือเรื่องของการรอ เพราะกว่าจะได้ใช้บริการในสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านอาหารต่าง ๆ แต่ละครั้งก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเสียเวลาไปกับการรอคิวไม่มากก็น้อย ทั้งยังต้องเบียดเสียดกับผู้คนที่ล้นหลามรอบตัวอีกด้วย แต่กลับกันหากท่องเที่ยวในช่วง Low Season ผู้คนก็จะเบาบางอย่างเห็นได้ชัด ทำให้นักทุกท่านสามารถใช้เวลาไปกับการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่โดยที่แทบไม่ต้องเสียเวลาให้กับการรอคิวหรือเสียบรรยากาศเพราะผู้คนแออัดเลย

 

 5. สถานที่ท่องเที่ยวยังคงสภาพที่สวยงาม เนื่องจากผู้คนที่ค่อนข้างน้อย โอกาสที่ความสมบูรณ์จะถูกทำลายก็น้อยลงเช่นกัน ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็จะสามารถคงสภาพความความสวยงามไว้ได้แทบจะ 100% ทำให้อีกหนึ่งเหตุผลที่ต้องไปเที่ยวในช่วง Low Season คงขาดข้อนี้ไปไม่ได้เลย ทั้งผู้คนที่ไม่แออัด และยังได้เห็นความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในสภาพที่สมบูรณ์ ถือได้ว่าเป็นโอกาสทองเลยทีเดียวครับ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ ข้อดีของการท่องเที่ยวในช่วง Low Season หากใครที่เริ่มสนใจการท่องเที่ยวในช่วง low season ขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ยังคงลังเลเรื่องสถานที่ วันนี้น้องโฟกัสก็มี สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้ในช่วง Low Season มาฝากสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนด้วยนะคร้าบ

 

1. ทุ่งลาเวนเดอร์ เมืองฮอกไกโด, ประเทศญี่ปุ่น ดอกลาเวนเดอร์ในประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มบานช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งอยู่ในช่วงหน้าร้อนและยังเป็นช่วง Low Season ของประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่ความสวยงามจากสีสันของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่งและตระการตาไปทั่วทั้งอาณาบริเวรนั้น บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

 

พิกัด

- ฟาร์มโทมิตะเมืองฟุราโนะ ( ฟรีค่าเข้าชม )

- เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า  – เมืองซัปโปโร ( ค่าเข้าชม 300 เยน )

- สวนดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ เมืองบิเอะ ( ฟรีค่าเข้าชม )

- ไฮแลนด์ ฟุราโนะ เมืองฟุราโนะ ( ค่าเข้าชม 500 เยน )

- ฟลาวเวอร์แลนด์ คามิฟุราโนะ เมืองฟุราโนะ ( ฟรีค่าเข้าชม )

 

 

2. Cinque Terre 5 หมู่บ้านบนผาริมทะเล, ประเทศอิตาลี หากใครที่เคยดูอนิเมชั่นชื่อดังจากค่าย Pixar อย่าง “Luca” ก็คงต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากหมู่บ้านในอนิเมชั่นเรื่อง Luca ได้รับแรงบัลดาลใจหรือมีต้นแบบมาจาก 1 ใน 5 หมู่บ้านนี้นั่นเอง ซึ่งหมู่บ้านทั้ง 5 ประกอบด้วย Monterosso, Vernazza, Corniglia, Manarola, Riomaggiore ในช่วง High Season ของที่นี่ นักท่องเที่ยวจะค่อนข้างเยอะ ทำให้ที่พักในหมู่บ้านนั้นหาได้ยาก แต่หากมาเที่ยวในช่วง Low Season ที่มีนักท่องเที่ยวเบาบางกว่าปกติ ( เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ) ก็จะหมดปัญหาเรื่องนี้ และถึงแม้จะมีอุปสรรคด้านสภาพฝนฟ้าอากาศบ้าง แต่รับรองว่าความสวยงามและบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติกของหมู่บ้านทั้ง 5 จะยังคงตราตรึงอยู่เช่นเดิม

 

 

3. เมืองเซอร์แมท, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วง Low Season ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะอยู่ประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว และด้วยอากาศที่ค่อนข้างหนาวจัด ทำให้ประชากรชาวพื้นเมืองจะไม่นิยมออกไปเที่ยวกันในช่วงเวลานี้ และเมืองเซอร์แมทก็เป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวที่ควรได้ไปเห็นกับตาสักครั้งในชีวิต เนื่องด้วยความสวยงามของหมู่บ้านสไตล์สวิสดั้งเดิมที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ทั้งยังมีทิวทัศน์สุดอลังการอย่าง ยอดเขา Matterhorn ที่เป็นต้นแบบของโลโก้ช็อกโกแลต Toblerone อีกด้วย ถือเป็นความสวยงามที่ลงตัว ควรค่าแก่การหนีร้อนไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

 

 

4. กำแพงเมืองจีน, ประเทศจีน  สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ คงพลาดแลนมาร์กสำคัญอย่าง กำแพงเมืองจีน ไปไม่ได้ ด้วยความอลังการสุดลูกหูลูกตาที่มาพร้อมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก จึงทำให้กำแพงเมืองจีนมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งหากไปในช่วง High Season จุดที่ได้รับความนิยมก็จะแออัดเป็นพิเศษ ดังนั้นนักท่องเที่ยวท่านใดที่ไม่อยากไปเจอความวุ่นวาย การไปเที่ยวในช่วง Low Season ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมากเช่นกัน เพราะนอกจากจะไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนมากมายแล้ว ยังสามารถเก็บภาพความสวยงามของกำแพงเมืองจีนได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

 

 

5. หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน เมืองปูซาน, ประเทศเกาหลีใต้ สถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น ซานโตรินีเกาหลี เนื่องด้วยความสวยงามของหมู่บ้านสีพาสเทล ที่เรียงรายบนเนินเขา พร้อมทั้งสลับสีไปมาทำให้มองจากมุมไหนก็ล้วนดูสวยงามน่าจดจำ และตามทางถนนในหมู่บ้านก็ยังมีงานศิลปะมากมายให้ได้ชมหรือถ่ายรูปกันอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจในช่วง Low Season ของที่นี่คือยามที่แสงแดดในช่วงหน้าร้อนสาดส่องไปยังหมู่บ้าน ทำให้หมู่บ้านที่มีสีพาสเทลนั้นดูสดใสขึ้นไปอีกเท่าตัว นอกจากนั้นที่พักหรือตั๋วต่าง ๆ ก็มีราคาที่ถูกกว่าช่วงอื่น ๆ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ

 

6. อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง, ไต้หวัน อุทยานแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น สถานที่ที่ดีที่สุดในการชมดาวหางฮัลเลย์ ซึ่งจะหาชมได้ในช่วงหน้าร้อนหรือช่วง Low Season นั่นเอง นอกจากการชมดาวหางฮัลเลย์แล้ว ภายในอุทยานยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้เที่ยวชมอีกมากมาย อย่างเช่น ตลาดกลางคืนเขิ่นติง, เนินทรายเฟิงชุยซา  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติเขิ่นติงเช่นเดียวกัน

 

7. เกาะมัลดีฟส์ การเที่ยวเกาะมัลดีฟส์ในช่วง Low Season นั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะนอกจากในช่วงเวลานี้ ราคาของตั๋วหรือที่พักต่าง ๆ จะมีราคาที่ถูกมากแล้ว นักท่องเที่ยวจะยังได้ชื่นชมความสวยงามของเกาะมัลดีฟส์แบบแทบไม่ต่างจากช่วง High Season เลยด้วย เพราะเกาะมัลดีฟส์นั้นเป็นเกาะที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ต่างกันแค่จำนวนความนิยมของนักท่องเที่ยวนั่นเอง แต่หากเที่ยวในช่วง Low Season อาจเจอฝนเล็กน้อย แต่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น หากใครที่ต้องการความสงบและไม่กังวลเรื่องฝน ช่วง Low Season ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมาก ๆ เลยครับ

 

8. เมืองคัปปาโดเกีย, ประเทศตุรกี การนั่งบอลลูนที่เมืองคัปปาโดเกีย ถือเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะความสวยงามของทิวทัศน์ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ซึ่งโดยปกติแล้วช่วง High Season ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันนั้นจะอยู่ในฤดูร้อน แต่หากไปในช่วง Low Season ทั้งมีนักท่องเที่ยวที่น้อย เป็นส่วนตัวแล้ว ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามไปอีกแบบด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเช่นกันครับ

 

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นช่วง High Season หรือ Low Season ต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกท่านสามารถเลือกท่องเที่ยวตามช่วงเวลาที่ต้องการหรือตรงตามความชอบได้เลยครับ แต่หากนักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากเที่ยวแบบประหยัดงบ หรือไม่ชอบความแออัดของผู้คนและต้องการใช้เวลาในการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ก็สามารถเลือกออกไปท่องเที่ยวในช่วง Low Season กันได้นะคร้าบบ

Copyright © 2018 focusjourney.co.th | All Rights Reserved. | Powered by applezeed.com